การเตรียมโรงเรือนสำหรับเพาะเห็ดนางฟ้าภูฐานดำ
ขนาดโรงเห็ด สำหรับโรงเรือนเพาะเห็ดนางฟ้าภูฐานดำนั้น
โดยส่วนใหญ่จะแบ่งเป็นสองแบบ คือ สำหรับบ่มก้อนเห็ด และสำหรับเลี้ยงก้อนเห็ด
แต่ถ้าสำหรับผู่ที่พึ่งจะริเริ่มทำก้อนเห็ดด้วยทุนน้อยๆ
เราก็สามารถใช้โรงเรือนเลี้ยงก้อนเห็ดนำมาบ่มก้อนเห็ดได้เหมือนกัน
แต่อาจต้องปรับปรุ่งโรงเรื่อนให้เหมาะสมกับสะภาพอากาศที่เหมาะสมกับการบ่มก่อน
สำหรับขนากโรงเรือนนั้นก็ขึ้นอยู่กับปริมาณก้อนเห็นที่เราวางแผนเลี้ยงในแต่ละรอบ
โดยการวางแบบเปลนต้องมีพื้นที่ทำงานสำหรับเราเสมอ
โดยส่วนใหญ่ทางเดินระหว่างแผงเห็ดจะใช้พื้นที่ประมาณ 60 เซนติเมตร - 1 เมตร
ส่วนความสูงเสาด้านข้างก็จะประมาณ 2 เมตร ถึง 2.5 เมตร ความสูงจั่วประมาณ 1.2-1.5 เมตร
ส่วนโครงสร้างจะเป็นไม้ เหล็ก ปูน ก็ได้ขึ้นอยู่กับสถานที่นั้นๆ
ว่าสามารถจัดหาอะไรที่ง่ายและราคาถูก
เพราะโรงเรือนถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยว่าเราสามารถดำเนินการเลี้ยงเห็ดไปต่อได้หรือไม่
ขนาดโรงเรือนที่นิยมใชโดยทั่วไป
- ความจุก้อนเห็ด 1000 ก้อน ใช้โรงเรือนขนาด กว้าง 2 เมตร ยาว 4 เมตร
- ความจุก้อนเห็ด 3000 ก้อน ใช้โรงเรือนขนาด กว้าง 4 เมตร ยาว 6 เมตร
- ความจุก้อนเห็ด 5000 ก้อน ใช้โรงเรือนขนาด กว้าง 6 เมตร ยาว 6 เมตร
- ความจุก้อนเห็ด 10000 ก้อน ใช้โรงเรือนขนาด กว้าง 6 เมตร ยาว 12 เมตร
ชนิดของวัสดุทำหลังคา
โดยส่วนใหญ่จะใช้หญ้าคาหนือไม่ก็หญ้าแผก
แตเนื่องด้วยปัจจุบันเทคโนโลยีในการของวัสดุทดแทนมีมาก และมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ทางฟาร์มเราเลยปรับเปลี่ยนวัสดุหลังคาโดยใช้ฉนวนกันความร้อน มาทดแทนการใช้หญ้า
ซึ่งก็ให้ผลประโยชน์ใกล้เคียงกันกับวัสดุที่มาจากธรรมชาติ ส่วนผนังนั้นเราจะใช้แสลนสีดำปิดด้านข้างโดยใช้ขนาด
80%
ชั้นวาง
ปัจจุบันมีการออกแบบชั้นวางกันหลากหลานรูปแบบ แบบแขวน แบบชั้นวางคอนโด
แบบแผงพิงรูปตัวเอ หรือครึ่งตัวเอ
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับชนิดเห็ดและความเหมาะสมของพื้นที่และขนาดโรงเรือน
แต่ถ้าจะให้ง่ายและประหยัดต้นทุนที่สุดจะนิยมกันคือนเป็นชั้นวางคอนโด
และทางฟาร์มเราใช้มาตลอดซึ่งถแปลี่ยบเทียบกันหลายแบบจะพบว่าความง่ายในการเรียงก้อน
ง่ายในการจัดการนั้นมีมาก จึงเป็นที่นิยมและเหมาะสม
ระบบน้ำ เห็ดมีความต้องการน้ำมากในรูปแบบความชื้นและในรูปแบบน้ำเพื่อช่วยลดอุณภูมิในโรงเรือน
ไม่ให้อุณภูมิปรับเปลี่ยนเร็วมากเกินไป
เพราะถ้าอุณภูมิที่ปรับเปลี่ยนเร็วและดอกเห็ดปรับสภาพตามไม่ทัน
จะส่งผลต่อคุณภาพดอกเห็ดออกมาไม่สมบูรณ์ ระบบน้ำนั้นนิยมใช้กันแบบง่ายๆ ก็จะใช้สายยางฉีดน้ำเป็นละออกฝ่อยและรดที่พื้นโรงเรือนให้เปลียก
และถ้าอากาศร้อนมากๆ ก็จะลดโดยตรงไปที่ก้อนเห็ด
แต่ต้องระมัดระวังไม่ให้น้ำเข้าไปในบริเวณหน้าก้อน
เพราะจะทำให้ก้อนเน่าเสียเร็วเกินไป
หรือจะใช้ระบบความคุมและรดด้วยหัวพ่นหมอกซึ่งที่โรงเรือนเห็ดของเราใช้อยู่ในปัจจุบันได้เหมือนกัน
ขอดีคือโรงเห็ดจะได้น้ำสม่ำเสมอ และไม่ต้องคอยรดน้ำให้เห็ด
เราจะใช้ทามเมอร์คอยควบคุมปั้มน้ำ ให้รดน้ำเองโดยอัตโนมัติ
แต่ข้อเสียของการใช้ระบบนี้คือ
เวลาอากาศภายนอกมีความชื้นสูงอยู่แล้วบางครั้งเราก็ไม่จำป็นรดน้ำในโรงเรือน
เพราะถ้ารดเข้าไปอีกจะทำให้โรงเรือนเราชื้นมากเกินไปอาจทำให้เป็นบ่อเกิดของโรงในก้อนเห็ดได้
พื้นโรงเห็ด
ต้องขอบอกว่าขึ้นอยู่กับความต้องการของเจ้าของ
ว่าชอบแบไหนถ้าจะเอาประหยัดก็พื้นดินทั่วไปได้
ถ้าจะเอาแบบสบายก็ลงทรายเพิ่มหรือทำเป็นพื้นคอนกรีตได้ ผลผลิตของดอกไม่ค่อยแตกต่างกันเท่าไหรนัก
ความแตกต่างโรงบ่มก่อนและโรงเลี้ยงดอกเห็ด
อันดับแรกชั้นวางโรงบ่ม
โดยทั่วไปจะนิยมเป็นชั้นวางแนตั้งโคยก้อนเห็ดจะตั้งปากถุงขึ้นเพื่อให้ง่ายต่อการหยอดเชื้อและช่วยเรื่องระบายอากาศด้วย
ทำให้เชื้อเห็ดเดินเร็วขึ้น ระยะการบ่มก้อนจะอยู่ประมาณ 25-35 วัน ถึงจะเอาไปใช้งานได้
โดยทั่วไปโรงบ่มต้องโปร่ง สะอาด อากาศถ่ายเทได้สะดวก ห้ามรดน้ำที่ก้อนเห็ดเด็ดขาด
แต่ถ้าอากาศร้อนมากๆก็รดไปที่พื้นโรงเรือนได้
ก็จะช่วยให้อากาศในโรงบ่มเราเย็นขึ้นมาได้
การทำความสะอาดโรงเรือน
โดยปรกติโรงเห็ดเปิดใหม่ควรทำความสะอาดโรงก่อนอาจใช้ยาปราบแมลงฉีดพ้น
หรือใช้ปูนขาวโรยทั่วบริเวณโรงเรือน
เพื่อให้มั้นใจให้มากที่สุดว่าโรงเห็ดเราจะปลอดเชื้อให้มากที่สุด
และการปลูกโรงเห็ดไม่ควรอยู่ใกล้กับจุดที่ปลูกพื้นที่มีแมลงหรือเพลียลงง่ายๆ
หรือใกล้แหล่งปฏิกูลต่างๆ ดั้งนั้นพื้นทีตั้งโรงเห็ดควรตรวจสอบและประเมิณพื้รที่กันก่อนเสมอว่าเหมาะสมห์หรือไม่
การทำก้อนเชื้อเพาะเห็ดนางฟ้าภูฐานดำ
ในการทำก้อนเห็ดในปัจจุบันมีผู้ประกอบการจัดทำหัวเชื้อเม็ดข้าวฟางขาย
โดยทั่วไปเราสามารถจัดหาได้ง่าย
ดั้งนั้นในคู่มือนี้เราจะไม่มีการแนะนำในการหยอดเชื้อข้าวฟาง
เราจะใช้วิธีชื้อเชื้อมาจากแหล่งจำหน่ายเลย ซึ่งมีมีให้เราเลือกหลากหลายสายพันธ์
หลักการเลือกเชื้อข้าวฟาง
ส่วนใหญในตลาดจะนิยมโฆษณาสรรรพคุณของเชื้อกันในแต่ละแบบ
ดั้งนั้นวิธีที่ดีที่สุดคือชื้อมาทดลอง
หยอดเป็นตัวอย่างและประเมิณเองว่าเราจะใช้เชื้อของใครดี
เพราะจะมีความแตกต่างกันของสายพัน บางสายพันธ์ก้านดอกยาว ดอกบางเล็กไม่ได้น้ำหนัก
บางสายพันธ์ดอกใหญ้ก้านสั้น ทั้งนี้ทางเราไม่ขอแนะนำให้ทางผู้ศึกษาทดลองเลือกเองเพื่อความสะบายใจของผู้เลี้ยง
ส่วนลักษณะเชื้อที่พร้อมใช้งานจะขึ้นเป็นราสีขาวทั่วทั้งขวดเชื้อ
อายุหลังต่อเชื้อประมาณ 10-15 วัน ถึงจะใช้งานได้
วัสดุและอุปกรณ์
1.ขี้เลื่อยยางพาราแห้งสนิท 100 กิโลกรัม
2.รำละเอียด 6 – 8 กิโลกรัม
3.ปูนยิบซัม 1 กิโลกรัม
4.ปูนขาว 1 กิโลกรัม
5.ดีเกลือ 0.2 กิโลกรัม
6.น้ำสะอาด 70 กิโลกรัม
7.อาหารเสริม 3กิโลกรัม
8.หัวเชื้อข้าวฟาง
9.ถุงพลาสติกทนร้อนขนาด 6 3/4 x
12 1/2 หรือ 8x12 นิ้ว
10.คอขวดพลาสติกเส้นผ่าศูนย์กลาง
1 1/2 นิ้ว
11.สำลี ยางรัด
12.ถึงนึ่งไม่อัดความดัน หรือหม้อนึ่งความดัน
วิธีการทำก้อนเชื้อเพาะเห็ดนางฟ้าภูฐานดำ
การทำก้อนเชื้อเพาะเห็ดนางฟ้าภูฐานดำนั้นจำเป็นต้องหาวัสดุอุปกรณ์ที่ต้องเตรียมดังนี้ ได้แก่ขี้เลื่อยยางพาราหรือขี้เลื่อยไม้เนื้ออ่อน แต่ในทางปฏิบัตินั้นขี้เลื่อยยางพาราจะให้ผลดีที่สุด จากนั้นก็หาส่วนผสมต่างๆเพื่อให้ได้คุณค่าทางอาหารมากยิ่งขึ้น และสูตรการทำก้อนเชื้อเห็ดนางรม และเห็ดนางฟ้าภูฐานดำมีส่วนผสมหลัก
ๆดังนี้
เมื่อหาส่วนผสมมาครบแล้ว ก็ทำการตากและกองขี้เลื่อยยางพาราไว้ประมาณ 7 วัน จากนั้นค่อยทำการผสมโดยการเติมน้ำลงประมาณ 70 เปอร์เซนต์ ทดสอบโดยการกำส่วนผสมถ้ามีน้ำซึมตามง่ามมือแสดงว่าการผสมนี้ผสมน้ำมากเกินไปแต่ถ้าเมื่อบีบแล้วขี้เลื่อยแตกเป็น 3 ก้อนแสดงว่าการผสมใช้ได้เรียกว่าพอดีแล้วแต่ถ้าว่าถ้ากำแล้วแบมือออกแล้วขี้เลื่อยจับตัวไม่เป็นก้อนแสดงว่าเติมน้ำน้อยจนเกินไป เมื่อผสมเข้ากันได้ที่แล้วก็ทำการกรอกใส่ถุงเพาะเห็ด ใส่ให้ได้น้ำหนักประมาณ 800 – 900 กรัม หลังจากนั้นก็ทำการรวบปากถุงกระทุ้งกับพื้นให้แน่นพอประมาณหลังจากนั้นก็ทำการใส่คอขวด
การหยอดเชื้อและบ่มเชื้อเห็ดนางฟ้าภูฐานดำ
เมื่อทำก้อนเชื้อเสร็จแล้ว เราก็จะนำก้อนเชื้อที่ได้ทำการหยอดเชื้อและบ่มเชื้อเห็ดนางรม และเห็ดนางฟ้าภูฐานดำตามลำดับ โดยก่อนอื่นก้อนเชื้อที่ได้นั้นเราก็จะนำมาทำการนึ่งเพื่อฆ่าเชื้อ ถ้ามีหม้อนึ่งความดันอยู่แล้วก็ให้นึ่งที่ความดัน 25 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว โดยทำการนึ่งที่ระยะเวลาประมาณ
1 – 2 ชั่วโมง ถ้าไม่มีหม้อนึ่งความดันอาจใช้หม้อนึ่งจากถังน้ำมัน
200 ลิตร แทนก็ได้ แต่จะต้องทำการนึ่งประมาณ 3 ครั้ง โดยทำการนึ่งที่อุณหภูมิ 100 อาศาเซลเซียส นึ่งที่ระยะเวลาประมาณ
2-3 ชั่วโมง
และทำการนึ่งทั้งหมด 3 ครั้ง
เมื่อผ่านขั้นตอนการนึ่งฆ่าเชื้อเรียบร้อยแล้ว เราก็จะทำการหยอดเชื้อเห็ดลงสู่ก้อนเชื้อ เชื้อเห็ดจากเมล็ดข้าวฟ่างควรหยอดเชื้อลงประมาณ 20 – 25 เมล็ด
เมื่อหยอดเชื้อลงสู่ก้อนเชื้อเห็ดเสร็จแล้ว ให้ทำการปิดปากถุงก้อนเชื้อให้เรียบร้อย หลังจากทำการหยอดเชื้อลงในก้อนเชื้อเสร็จ เราก็จะทำการบ่มเชื้อเห็ดในอีกขั้นตอนหนึ่ง โดยการบ่มเชื้อนั้นต้องนำก้อนไปบ่มไว้ที่ระยะเวลาประมาณ
25-35 วัน กรรมวิธีการบ่มก็ไม่ยุ่งยากอะไร เพียงแต่ต้องเก็บให้เป็นระเบียบ
ไม่ถูกแดด ไม่ถูกฝน ลมไม่โกรกไม่มีแมลง ไม่มีหนู
อากาศถ่ายเทได้สะดวก
การเก็บเกี่ยวเห็ดนางฟ้าภูฐานดำ
หลังจากที่ได้เราทำการบ่มเชื้อเห็ดนางรม และเห็ดนางฟ้าภูฐานดำเรียบร้อยแล้ว ก็เป็นช่วงระยะเวลาของการเปิดดอกและทำการเก็บเกี่ยวผลผลิตเห็ดนางรม และเห็ดนางฟ้าภูฐานดำจะออกดอกเมื่อมีความชื้นสูงพออากาศไม่ร้อนมาก เมื่อถูกเหนี่ยวนำด้วยอากาศเย็นตอนกลางคืนก็จะออกดอกได้ดี เทคนิคที่ทำให้ออกดอกสม่ำเสมอและดอกใหญ่สามารถทำได้ดังนี้ เมื่อเก็บดอกเสร็จต้องทำความสะอาดหน้าก้อนเชื้อโดยเขี่ยเศษเห็ดออกให้หมด งดให้น้ำสัก 3 วัน เพื่อให้เชื้อฟักตัวแล้วก็กลับมาให้น้ำอีกตามปกติเห็ดก็จะเกิดเยอะเหมือนเดิมหรือเมื่อเก็บดอกเห็ดเสร็จก็ทำความสะอาดหน้าก้อนเชื้อเหมือนเดิม แล้วรัดปากถุงไม่ให้อากาศเข้าทิ้งระยะเวลาประมาณ 2 – 3 วัน ให้น้ำปกติหลังจากนั้นก็เปิดปากถุงก็จะเกิดดอกที่สม่ำเสมอเป็นการเหนี่ยวนำให้ออกดอกพร้อมกัน เมื่อเห็ดออกดอกและบานจนได้ขนาดที่ต้องการแล้ว ให้เก็บดอกโดยจับที่โคนดอกทั้งช่อ
โยกซ้ายขวา-บนล่าง แล้วดึงออกจากถุงเห็ด ระวังอย่าให้ปากถุงเห็ดบาน ถ้าดอกเห็นโคนขาดติดอยู่ให้แคะออกทิ้งให้สะอาดเพื่อป้องกันการเน่าเสีย เป็นสาเหตุทำให้เกิดหนอนจากการวางไข่ของแมลงได้ การดูลักษณะดอกเห็ดที่ควรเก็บ คือดอกไม่แก่
หรืออ่อนจนเกินไป ดูที่ขอบดอกยังงุ้มอยู่คือดอกที่เหมาะแก่การเก็บเกี่ยว ถ้าขอบยกขึ้นแสดงว่าแก่แล้ว ดอกเห็ดที่แก่จัด และออกสปอร์เป็นผงขาวด้านหลังดอกเห็ด
ต้องรีบเก็บออก เพราะสปอร์จะเป็นตัวชักนำให้แมลงเข้ามาในโรงเรือนเพาะเห็ดนางรม และเห็ดนางฟ้าภูฐานดำได้
ปัญหาที่พบในการเพาะเห็ดนางฟ้าภูฐานดำ
เราสามารถวิเคราะห์ปัญหาในการเพาะเห็ดนางรม
และเห็ดนางฟ้าภูฐานดำออกมาได้ 7 ข้อหลัก ๆ ดังนี้
1. เชื้อในถุงไม่เดิน
สาเหตุ ขณะหยอดเชื้อถุงก้อนเชื้อร้อนเกิน เชื้ออ่อนแอเกินไป และลืมหยอดเชื้อ
วิธีแก้ไข ตั้งก้อนเชื้อให้เย็นอย่างน้อย 24 ชั่งโมง คัดเชื้ออ่อนแอทิ้ง ก่อนหยอดเชื้อ ขณะหยอดเชื้อต้องมีสติ และสมาธิแน่นแน่
สาเหตุ ขณะหยอดเชื้อถุงก้อนเชื้อร้อนเกิน เชื้ออ่อนแอเกินไป และลืมหยอดเชื้อ
วิธีแก้ไข ตั้งก้อนเชื้อให้เย็นอย่างน้อย 24 ชั่งโมง คัดเชื้ออ่อนแอทิ้ง ก่อนหยอดเชื้อ ขณะหยอดเชื้อต้องมีสติ และสมาธิแน่นแน่
2. หนอนแมลงหวี่กินเส้นใย
สาเหตุ แมลงหวี่ไข่ไว้ที่ฝาจุกหรือสำลี
วิธีแก้ไข ตรวจสอบสุขภาพอนามัยของโรงเรือน จุก สำลี ต้องนึ่งฆ่าเชื้อ สำลีต้องอุดให้แน่น ปิดกระดาษให้สนิทอย่าให้มีช่อง
สาเหตุ แมลงหวี่ไข่ไว้ที่ฝาจุกหรือสำลี
วิธีแก้ไข ตรวจสอบสุขภาพอนามัยของโรงเรือน จุก สำลี ต้องนึ่งฆ่าเชื้อ สำลีต้องอุดให้แน่น ปิดกระดาษให้สนิทอย่าให้มีช่อง
3. เชื้อเดิน แต่หยุด มีกลิ่นบูด มีน้ำเมือก มีสีเหลือง เขียว
หรือสีดำ
สาเหตุ มีราหรือแบคทีเรียปนเปื้อน นึ่งฆ่าเชื้อไม่หมด นึ่งฆ่าเชื้อดีแต่กระบวนการลดความร้อนและเปิดหม้อนึ่งไม่ถูกต้อง เชื้อเห็ดที่ใช้ไม่มีคุณภาพ วิธีการหยอดเชื้อไม่ดี บ่มถุงก้อนเชื้อหนาแน่นเกินไปทำให้การระบายอากาศไม่ดี มีคาร์บอนไดออกไซค์มาก
วิธีแก้ไข ให้ทบทวนสาเหตุหลักของการปนเปื้อน ตรวจกระบวนการนึ่ง เรื่อง เวลา อุณหภูมิ จำนวนก้อน ไล่อากาศในหม้อนึ่ง ค่อยๆลดความร้อน อย่าเปิดหม้อนึ่งอย่ารวดเร็ว ตรวจดูจุกสำลีว่าแน่นหรือไม่ ใช้เชื้อเห็ดที่บริสุทธิ์ อบรมวิธีการปลอดเชื้อ และปรับปรุงวิธีทำงาน ห้องบ่มเชื้อควรมีอุณหภูมิ 25 – 30 องศาเซลเซียส ปรับปรุงเรื่องสุขอนามัยฟาร์ม
สาเหตุ มีราหรือแบคทีเรียปนเปื้อน นึ่งฆ่าเชื้อไม่หมด นึ่งฆ่าเชื้อดีแต่กระบวนการลดความร้อนและเปิดหม้อนึ่งไม่ถูกต้อง เชื้อเห็ดที่ใช้ไม่มีคุณภาพ วิธีการหยอดเชื้อไม่ดี บ่มถุงก้อนเชื้อหนาแน่นเกินไปทำให้การระบายอากาศไม่ดี มีคาร์บอนไดออกไซค์มาก
วิธีแก้ไข ให้ทบทวนสาเหตุหลักของการปนเปื้อน ตรวจกระบวนการนึ่ง เรื่อง เวลา อุณหภูมิ จำนวนก้อน ไล่อากาศในหม้อนึ่ง ค่อยๆลดความร้อน อย่าเปิดหม้อนึ่งอย่ารวดเร็ว ตรวจดูจุกสำลีว่าแน่นหรือไม่ ใช้เชื้อเห็ดที่บริสุทธิ์ อบรมวิธีการปลอดเชื้อ และปรับปรุงวิธีทำงาน ห้องบ่มเชื้อควรมีอุณหภูมิ 25 – 30 องศาเซลเซียส ปรับปรุงเรื่องสุขอนามัยฟาร์ม
4. เชื้อเดินเต็มก้อน แต่ไม่ออกดอก
สาเหตุ เชื้อเป็นหมัน เชื้อไม่ดี สภาพแวดล้อมในโรงเรือนไม่เหมาะสม มีสิ่งปนเปื้อน เช่น รา ไร แบคทีเรีย หนอน และมีการใช้สารเคมีมากเกินไป
วิธีแก้ไข จัดหาเชื้อใหม่ จัดสภาพในโรงเรือนให้เหมาะสม จัดสุขอนามัยฟาร์ม แสง อุณหภูมิ ความชื้น การถ่ายเทอากาศ และไม่ควรใช้สารเคมีกำจัดแมลง
สาเหตุ เชื้อเป็นหมัน เชื้อไม่ดี สภาพแวดล้อมในโรงเรือนไม่เหมาะสม มีสิ่งปนเปื้อน เช่น รา ไร แบคทีเรีย หนอน และมีการใช้สารเคมีมากเกินไป
วิธีแก้ไข จัดหาเชื้อใหม่ จัดสภาพในโรงเรือนให้เหมาะสม จัดสุขอนามัยฟาร์ม แสง อุณหภูมิ ความชื้น การถ่ายเทอากาศ และไม่ควรใช้สารเคมีกำจัดแมลง
5. เกิดดอกเห็ดแต่ก้านยาวหมวกดอกไม่แผ่ออก
สาเหตุ แสงไม่เพียงพอและมีคาร์บอนไดออกไซค์มากเกินไป
วิธีแก้ไข ปรับแสงให้มากขึ้น จัดให้อากาศถ่ายเทได้ดีขึ้น
สาเหตุ แสงไม่เพียงพอและมีคาร์บอนไดออกไซค์มากเกินไป
วิธีแก้ไข ปรับแสงให้มากขึ้น จัดให้อากาศถ่ายเทได้ดีขึ้น
6. เกิดหน่อมากแต่ดอกกลับเติบโตน้อย
สาเหตุ เชื้ออ่อนแอ เงื่อนไขเหมาะแก่การเกิดหน่อ ไม่เหมาะแก่การพัฒนาของดอก ขาดออกซิเจนและแสง อาหารในก้อนเชื้อไม่เพียงพอหรือไม่มีคุณภาพ เชื้อที่ใช้ไม่ดี มีคุณภาพต่ำ มีจุลินทรีย์ต่างๆรบกวน การถ่ายเทอากาศไม่ดี ความชื้นสูงเกินไปและรดน้ำมากเกินไป เกิดจากการใช้สารเคมีในช่วงเปิดดอก
การแก้ไข เปลี่ยนเชื้อใหม่ ปรับเงื่อนไขของการเกิดดอก เพิ่มการถ่ายเทอากาศ เพิ่มช่องแสง
ตรวจสอบคุณภาพของวัตถุดิบ ใช้เชื้อที่มีอัตราการเดินเส้นใยดี ปรับโรงเรือนไม่ให้เหมาะกับจุลินทรีย์ เพิ่มการถ่ายเทอากาศ ลดความชื้นลง ควรเลิกใช้สารเคมีในช่วงเปิดดอก
สาเหตุ เชื้ออ่อนแอ เงื่อนไขเหมาะแก่การเกิดหน่อ ไม่เหมาะแก่การพัฒนาของดอก ขาดออกซิเจนและแสง อาหารในก้อนเชื้อไม่เพียงพอหรือไม่มีคุณภาพ เชื้อที่ใช้ไม่ดี มีคุณภาพต่ำ มีจุลินทรีย์ต่างๆรบกวน การถ่ายเทอากาศไม่ดี ความชื้นสูงเกินไปและรดน้ำมากเกินไป เกิดจากการใช้สารเคมีในช่วงเปิดดอก
การแก้ไข เปลี่ยนเชื้อใหม่ ปรับเงื่อนไขของการเกิดดอก เพิ่มการถ่ายเทอากาศ เพิ่มช่องแสง
ตรวจสอบคุณภาพของวัตถุดิบ ใช้เชื้อที่มีอัตราการเดินเส้นใยดี ปรับโรงเรือนไม่ให้เหมาะกับจุลินทรีย์ เพิ่มการถ่ายเทอากาศ ลดความชื้นลง ควรเลิกใช้สารเคมีในช่วงเปิดดอก
7. เกิดดอกเพียงรุ่นเดียวรุ่นต่อไปไม่เกิด
สาเหตุ อาหารในก้อนเชื้อไม่เพียงพอ เกิดการปนเปื้อน การจัดโรงเรือนไม่ดี เชื้อไม่ดี
การแก้ไข ปรับสูตรอาหารใหม่ จัดการเรื่องสุขอนามัยฟาร์ม ปรับเรื่องแสง อุณหภูมิ ความชื้น ขูดลอกผิวส่วนที่ปากถุงออก ปรับปรุงวิธีการจัดการและเอาใจใส่มากขึ้น เปลี่ยนเชื้อใหม่
สาเหตุ อาหารในก้อนเชื้อไม่เพียงพอ เกิดการปนเปื้อน การจัดโรงเรือนไม่ดี เชื้อไม่ดี
การแก้ไข ปรับสูตรอาหารใหม่ จัดการเรื่องสุขอนามัยฟาร์ม ปรับเรื่องแสง อุณหภูมิ ความชื้น ขูดลอกผิวส่วนที่ปากถุงออก ปรับปรุงวิธีการจัดการและเอาใจใส่มากขึ้น เปลี่ยนเชื้อใหม่